Worawisut.com
Opinion

ทำไม AIS ซื้อ 3BB

Worawisut Pinyoyang 1 min read

ขอเขียนบ้าง พอหอมปากหอมคอนะครับ 55

จริงๆแล้วทำ M&A ไม่ว่าจะควบรวมหรือซื้อเลย ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นมาทั่วโลก ในหลายประเทศ

ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างมาเลเซีย ปีก่อน ก็มีดีลควบรวมระหว่าง ดิจิ (Digi) เบอร์ 1 ของมาเลเซีย กับเบอร์ 3 คือ เซลคอม (Celcom) ส่วน แมกซิส (Maxis) ก็ยังเป็นเบอร์ 2 อยู่เหมือนเดิม แต่ส่วนแบ่งตลาดห่างจากเบอร์ 1 มาก

เดิมที 3 บริษัทนี้ ส่วนแบ่งใกล้กันมาก คือ 20% บวกลบ สลับอันดับกันได้ตลอดเวลา การควบรวมนี้ เพื่อชนะกันให้เด็ดขาดมากขึ้น 

หรือในอินโดนีเซีย ก็มีการควบรวมกันของบริษัทเบอร์ 3 (ส่วนแบ่งตลาด 13%) อย่าง Ooredoo กับ เบอร์ 4 (ส่วนแบ่งตลาด 7%) อย่าง CK Hutchison Holdings กลายเป็น Indosat Ooredoo 

แต่ก็ยังตาม Telkomsel ผู้นำเบอร์ 1 ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอินโดนีเซียกว่า 60% (ห่างมากอันนี้)

เคสที่ใหญ่ระดับโลกหน่อย อยู่ที่แคนาดา

ผู้ให้บริการรายใหญ่สุดในประเทศ ชื่อ Rogers Communications ขอซื้อกิจการของบริษัท Shaw Communications ด้วยมูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ เก้าแสนล้านบาท) 

ทั้งคู่ให้บริการทั้งโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน เน็ตบ้าน เคเบิลทีวี มีเดีย มีครบเหมือนทรูบ้านเรา

แต่สุดท้ายถูกหน่วยงานที่ดูแลด้านการผูกขาด ปฏิเสธไป เพราะเกรงว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะนำไปสู่การผูกขาดการแข่งขัน และเดือดร้อนไปถึงประชาชนผู้ใช้บริการ  

จนเกิดการเจรจาอีกรอบ ดีลใหม่ คือ ไม่ซื้อทั้งบริษัทแล้ว แต่ซื้อเฉพาะส่วนบริการมือถือจาก Shaw แทน 

(มี 2 แบรนด์ คือ Freedom Mobile กับ Shaw Mobile)

รอดูว่าจะโดน regulator ปฏิเสธอีกรอบมั้ย และทุกครั้งที่เกิด M&A จะต้องมี regulator เข้ามากำกับเสมอ เพื่อดูเรื่องการแข่งขัน การผูกขาด ซึ่งมีผลกระทบกับผู้ใช้โดยตรง

-----------------------------------

เอไอเอส ซื้อ 3BB ได้ประโยชน์อะไร

-----------------------------------

มุมด้าน regulator มีคนเขียนไว้ดีแล้วครับ ขอพูดถึงมุมธุรกิจแบบล้วนๆแทน

กลยุทธ์ที่เอไอเอสใช้เป็นการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจประเภทเดียวกัน (เรียกว่า Horizontal Integration)

โดยการดำเนินกลยุทธ์สร้างความเติบโตจากภายนอก (External Growth) ด้วยการใช้วิธีการซื้อกิจการ (Takeover)  

ประโยชน์ที่ได้ คือ 

1. เป็นทางลัดสร้างความเติบโต 

 - Geographic expansion หรือการขยายไปยังพื้นที่ที่ตัวเองไม่มี เช่น จังหวัดที่ 3BB ยึดครอง แต่บริการของเอไอเอสยังขยายไปไม่ถึง

 - รวมเพื่อความใหญ่ ฐานผู้ใช้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พอใหญ่ขึ้น อำนาจต่อรองก็มากขึ้น และเกิด economies of scale (การประหยัดจากขนาด) ต้นทุนต่อหัวลดลง

 - เกิด economies of scope (การประหยัดจากขอบเขต) คือ มีบริการที่หลากหลายขึ้นจากการเข้าถึงฐานลูกค้าอีกธุรกิจ ทำให้เกิดการ Cross-selling ได้ง่ายขึ้น เช่น เอไอเอส สามารถขายบริการเสริมอื่นๆ ให้กับลูกค้าของ 3BB และ บริการที่ 3BB มีอยู่ ก็เอามาขายให้ลูกค้าเอไอเอสได้เช่นกัน เช่น บริการ GigaTV , MonoMax , Cartoon Network และ HBO Go 

 - เกิด economies of speed ลดเวลาและต้นทุน ทำให้พัฒนาหรือขยายขอบเขตการให้บริการได้เร็วยิ่งขึ้น

2. เพิ่มมูลค่าให้กับราคาหุ้น ระยะสั้น หุ้นอาจจะขึ้น แต่ระยะยาว ผลของการควบรวม จะทำให้ต้นทุนต่ำลง กำไรมากขึ้น ก็จะสะท้อนไปที่มูลค่าหุ้นเอง

3. ลดการแข่งขันในธุรกิจ (ลดคู่แข่ง) ก็จะเหลือตัวหลักๆ คือ ทรู และ NT อดีตเบอร์ 3 ของปีก่อน 

4. สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน (Synergies) มีอยู่ 5 แกนหลัก คือ 

 - Marketing & Sales Synergy การใช้ทีมขาย ช่องทางจัดจำหน่าย (3BB Shop, AIS Shop, Telewiz etc) สื่อและโฆษณา Branding ต่างๆ ร่วมกัน 

 - Investment Synergy การลงทุนต่างๆ เพื่อลดรายจ่ายต่อหน่วย เช่น ลงทุนผลิต นำเข้าอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตด้วยกัน จากโรงงานเดียวกัน พัฒนากล่อง Set Top Box ร่วมกัน (AIS Play Box, GigaTV Box)

 - Cost Synergy ลดการลงทุนซ้ำซ้อน เช่น ในพื้นที่เดียวกัน สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน จะได้ประหยัด 

 - Operating Synergy ใช้ทีมงาน บุคคลากรร่วมกัน ใช้ตึก ใช้ออฟฟิศเดียวกัน เพื่อลดรายจ่ายต่อหน่วย เช่น ทีมติดตั้ง ทีม Call Center ทีมวิศวกร หรือ Sub-contract ที่ทั้ง 2 บริษัทใช้ในการขยาย ติดตั้ง และ support ลูกค้า

 - Management Synergy ใช้ผู้บริหารกลุ่มเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและลดรายจ่ายต่อหน่วย

5. เพิ่มรายได้ต่อหัว (Average Revenue Per User : ARPU) ให้สูงขึ้น จากเดิมเอไอเอสไฟเบอร์มี ARPU = 444 บาท/เดือน น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม = 525 บาท/เดือน 

 แต่ของ 3BB มี ARPU อยู่ที่ 598 บาท/เดือน เอามาถัวๆกัน น่าจะช่วยดึง ARPU ของเอไอเอสไฟเบอร์ขึ้นไปได้อีกหน่อย    

6. Cross licensing ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่า ใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบที่ 1 ที่ทั้งคู่มี ต้องเสียส่วนแบ่งมั้ย เสียเท่าไหร่ แต่สามารถยุบเหลือ 1 ใบได้ เพราะใช้ใบอนุญาตร่วมกัน รวมไปถึง license อย่างอื่นที่น่าจะลดไปได้อีก

จะเป็นยังไงต่อไป ในมุมมองผู้ใช้งานอย่างเราๆ 

อ่านต่อครับ ยังไม่จบ 55

-----------------------------------

บทสรุปกึ่งมโน

-----------------------------------

- ดีลนี้เดาว่าน่าจะจบได้ 

เพราะสภาพการแข่งขันในตลาด ยังมี NT อยู่อีกเจ้า (บางคนลืมไปแล้ว ) เลยยังไม่ถึงกับเป็น Duopoly 

อีกทั้งยังมีบริการอื่นที่ใช้แทนกันได้ คือ บริการอินเตอร์เน็ต 4G, 5G ที่ไม่ได้แพง (Fixed Broadband vs. Mobile Broadband)

เช่น ซิมเทพธอร์ของทรู ใช้ 5G Unlimited จำกัดความเร็ว 20 Mbps ก็ประมาณ 133 บาท/เดือน ของดีแทคก็มีแบบความเร็ว 30 Mbps ในราคาใกล้ๆกัน

พอยังเป็นตลาดแบบผู้เล่นน้อยรายอยู่ + ผู้ใช้มีตัวเลือกอื่นมาแทนได้ เงื่อนไขจะแตกต่างจากกรณีทรู-ดีแทค ที่จะเป็น Duopoly ไปเลย (แทบไม่ต้องนับ NT ในตลาดมือถือ)

- หมากเกมนี้ เป็นการใช้กลยุทธ์ของผู้ท้าชิง (Challenger Strategy) ที่ยอมทุ่มเงินเพื่อขึ้นเป็นผู้นำ 

- ตอนนี้สถานะของทรู กลายเป็นผู้ท้าชิงซะเอง และด้วยทรัพยากรและความแข็งแกร่งที่ตัวเองมี น่าจะตอกกลับด้วย กลยุทธ์โจมตีแสกหน้า (Frontal Attack) เป็นการจู่โจมเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดคืนจากผู้นำ โดยอาศัยทรัพยากรทั้งหมดที่มี เราน่าจะได้เห็นสงครามโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม กันช่วงนึง

- กล่อง AIS Play Box กับ GigaTV Box น่าจะกลายเป็นกล่องเดียว อาจจะย้ายผู้ที่ใช้งาน GigaTV มาใช้ AIS Play Box เป็นหลัก

- คอนเทนต์ในกล่อง GigaTV Box เช่น MonoMax, Cartoon Network, HBO Go น่าจะตามมาอยู่บน AIS Play Box ด้วย

- เท่ากับว่ากล่อง AIS Play Box นี่จะมีคอนเทนต์ให้ดูเยอะมาก ไม่ต่างอะไรกับธุรกิจเคเบิลทีวี แค่ใช้อินเตอร์เน็ตแทน แทบจะ spin-off ออกมาเป็นอีกธุรกิจ OTT ได้อีกธุรกิจ

- แข่งกับ True ID มันส์เลย

- ถ้าจะ spin-off AIS Play ออกมา ทางที่น่าจะแข่งกับต่างชาติได้ด้วย คือ ต้องร่วมกับ ช่อง 3 ช่อง 7 ช่อง ONE และ Workpoint แล้วทำเป็น OTT National Consortium ไปเลย (จากนั้นก็ทะยอยถอดคอนเทนต์ออกจาก YouTube ให้คอนเทนต์เด็ดๆ ดูได้เฉพาะแอปเดียว แบบนี้ถึงจะมีลุ้น...แต่เดาว่ายาก)

- แบรนด์ที่ใช้ทำตลาด เดาว่า น่าจะเหลือแบรนด์เดียว คือ จากฝั่งเอไอเอส เพราะเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงและเป็นที่รู้จักมากกว่า และง่ายกว่าในการทำ marketing communication (ใช้พรีเซนเตอร์จัดเต็ม ชุดเดิมได้เลย)

จะออกมาเป็น AIS 3BB อีกแบรนด์ เป็นไปได้ เป็นช่วง transition ชั่วคราวกันลูกค้า 3BB งง

-การปลดพนักงาน คิดว่ายัง เพราะธุรกิจยังไม่อิ่มตัว และยังโตได้อีก (คนใช้ทั่วประเทศยังหลัก ไม่ถึง 20 ล้านคน) เลยคิดว่า อาจจะมี relocate ย้ายแผนก ปรับทัพกันไปก่อน

- ปัจจัยสำคัญของธุรกิจนี้ คือ Last mile หรือการเชื่อมต่อขั้นสุดท้ายไปถึงบ้าน เพราะมันจะขยายไม่ได้เลย ถ้าสายหรือโครงข่ายไปไม่ถึง (ต่างจากมือถือที่ไปตามอากาศ) 

ความเร็วในการขยายพื้นที่จึงสำคัญมาก สามารถสร้างความได้เปรียบแบบผูกขาดแบบชั่วคราว (temporary monopoly) ในบางพื้นที่ได้เลย

- น่าจะมีการทำ Joint Venture ร่วมกับธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโต เพราะธุรกิจโทรคมนาคมตอนนี้โตแบบ 2 หลักนี่ยาก ต้องอาศัยการขยายแบบร่วมกับธุรกิจที่เติบโตเร็วและเยอะ

ทั้งในแบบที่เกี่ยวข้องกันกับธุรกิจเดิม (Integration) เช่น เอไอเอสไปลงทุนร่วมกับ SingTel และ SK Telecom เปิดบริษัทร่วมกันที่สิงคโปร์ ชื่อว่า ดิจิทัล เกมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อทำธุรกิจเกมออนไลน์ 

และแบบที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย (Diversification) เช่น AISCB ที่ไปทำร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อให้บริการด้านการเงิน 

เดาล้วนๆครับ ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้

Share
Comments
More from Worawisut.com

Worawisut's Blog

EXPLORING TECH AND BUSINESS FROM A PERSONAL LENS

Great! You’ve successfully signed up.

Welcome back! You've successfully signed in.

You've successfully subscribed to Worawisut.com.

Success! Check your email for magic link to sign-in.

Success! Your billing info has been updated.

Your billing was not updated.