ยุคทองของ Netflix กำลังจะหมดไป (ตอนที่ 1)

Netflix กำลังจะเจอสหบาทาของจริง จากพี่เบิ้มอินเตอร์เน็ตและมาเฟียค่ายหนัง ที่เริ่มเอาจริงเอาจังกับธุรกิจสตรีมมิ่ง เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน ขอเอา Media Landscape ของทั้งโลกมาใช้เป็นภาพประกอบ และขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนหน่อย กลัวยาวไป ไม่มีคนอ่านครับ หนัง ซีรีส์ ฝรั่งส่วนใหญ่ในโลก ถูกสร้าง จัดจำหน่าย ควบคุมการเผยแพร่ โดยสตูดิโอฮอลลีวูด (วงกลมก้อนสีเขียว) - แม้ว่าดูเหมือนจะแข่งกัน แต่เบื้องหลังจับมือกัน เพื่อผูกขาด สร้างอำนาจต่อรอง กำหนดราคา กำหนดว่าควรจะขายสิทธิ์ในการเผยแพร่ให้ใคร อำนาจของ

Netflix กำลังจะเจอสหบาทาของจริง จากพี่เบิ้มอินเตอร์เน็ตและมาเฟียค่ายหนัง ที่เริ่มเอาจริงเอาจังกับธุรกิจสตรีมมิ่ง
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน ขอเอา Media Landscape ของทั้งโลกมาใช้เป็นภาพประกอบ และขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนหน่อย กลัวยาวไป ไม่มีคนอ่านครับ
 
notion image
 
หนัง ซีรีส์ ฝรั่งส่วนใหญ่ในโลก ถูกสร้าง จัดจำหน่าย ควบคุมการเผยแพร่ โดยสตูดิโอฮอลลีวูด (วงกลมก้อนสีเขียว)
  • แม้ว่าดูเหมือนจะแข่งกัน แต่เบื้องหลังจับมือกัน เพื่อผูกขาด สร้างอำนาจต่อรอง กำหนดราคา กำหนดว่าควรจะขายสิทธิ์ในการเผยแพร่ให้ใคร อำนาจของค่ายหนังยังกับมีมณีอินฟินิตี้กับถุงมือ
  • Netflix ที่ก่อร่างสร้างตัวมาได้ในธุรกิจสตรีมมิ่ง เพราะเป็นคนบุกเบิกตลาดสตรีมมิ่ง พวกก้อนสีเขียวยังไม่รู้มูลค่าตลาด เลยคิดค่าสิทธิ์ในการฉายกับ Netflix ในราคาที่ต่ำกว่าปกติที่ควรจะเป็น
  • นอกจากได้มาราคาไม่แพงแล้ว ความฉลาดของ Netflix คือ พยายามทำสัญญายาวๆในตอนแรก ทำให้ได้สิทธิ์เรื่องดังๆ มาก เช่น Marvel Avengers , ซีรีส์ Friends, The Office จนถึงทุกวันนี้
  • ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของซีอีโอ Reed Hasting ซึ่งมองเห็นอนาคตของทีวี คิดว่าซักวันหนึ่ง ค่ายหนังก็จะรู้ตัวและขูดรีดค่าสิทธิ์การฉายจาก Netflix ในราคาที่สูงมากๆ
  • เลยตัดสินใจทุ่มเงิน เพื่อสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง เพราะมองว่าระยะยาว ตัวเองต้องมีของขาย มีหนัง ซีรีส์ดีๆให้ลูกค้าดู ด้วยต้นทุนคอนเทนต์ที่ต่ำลง และลดการพึ่งพาคอนเทนต์จากค่ายหนังอื่นๆ
  • พอ Netflix ใหญ่โต มีคนใช้บริการเป็นร้อยล้านคน ก้อนสีเขียวเลยเริ่มมองเห็นโอกาสว่าตัวเองก็มีของดีในมือ ทำได้เหมือนกัน และเริ่มมอง Netflix เป็น threats ที่ทำให้อำนาจต่อรองและอิทธิพลของตัวเองลดลง
  • อุปสรรคสำคัญสำหรับก้อนสีเขียวก่อนหน้านี้ คือ แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีอ่อนด้อย ล้าหลัง สเกลไม่ได้ เทียบ Netflix ไม่ติดฝุ่น
  • แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี พวก Cloud Computing, Content Delivery Networks, Encoding เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันอุปสรรคนี้ได้หายไป มีคนอื่นทำได้แล้ว
  • ก็หมายถึงความได้เปรียบที่ Netflix เคยมี ก็หายไปเช่นกัน
  • ไอ้ก้อนเขียวๆ เลยจะ transform ตัวเอง ให้เป็นก้อนสีแดง เพื่อให้บริการสตรีมมิ่งเองซะเลย
  • ที่เปิดหน้ามาชัดๆแล้ว คือ Disney+ ของค่าย Disney , HBO Go ของ Time Warner และกำลังจะออก HBO Max ให้มันพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก ค่ายอื่นกำลังทะยอย ทั้งแบบทำแยกเดี่ยว (Standalone) กับแบบผูกกับคนอื่น (Bundle) เช่น ขายพ่วงกับบริการต่างๆของวงกลมก้อนสีม่วง
  • วงกลมทุกก้อนเตรียมรุม Netflix
  • รวมถึง Amazon (Prime Video) , Apple TV+, Google (YouTube Premium) และ Facebook Watch
  • เริ่มเห็นภาพ สหบาทาแล้วเนอะ
  • สเต็ปแรก ก้อนสีเขียวค่อยๆทะยอยดึง content ที่อยู่ใน Netflix ออกจนหมดสัญญาและจะไม่ยอมให้ต่ออีก (ถ้ามีต่อ คือ แพงโคตรๆๆ)
  • หลายค่ายที่ต่อสัญญาไปก่อนหน้านี้ คือ โก่งราคาฟัน Netflix แบบไม่ยั้ง ผลคือ ต้นทุนแพงขึ้น จนต้องขึ้นราคากับคนดู ซึ่งก็มีการปรับราคาขึ้นมาตลอด
  • สเต็ปที่ 2 ก้อนสีเขียวที่มีทีมงาน คนสร้าง กำกับ เขียนบท เก่งๆในมือเพียบ ก็เอาคอนเทนต์ดังๆที่ตัวเองมี มาชูเป็นจุดขายซะ
  • เช่น Disney ก็ดึง Marvel Franchise มาทำเป็นซีรีส์เรื่อง Loki และอื่นๆอีกมากมาย (X Men, Starwars เป็นต้น) ให้บริการแบบสตรีมมิ่งโดยเฉพาะบน Disney+
  • ค่ายอื่น ก็ทำตามแบบเดียวกัน
จบตอนที่ 1 (กลัวยาวไป)