Blue Apron บริการส่งอาหารพร้อมทำยอดนิยม

Blue Apron บริการส่งอาหารพร้อมทำยอดนิยม ท่ามกลางยุคสมัยที่มีแต่ความเร่งรีบและคนในสังคมเสาะแสวงหาความสะดวกสบาย อาหารแบบ delivery กลายมาเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่การทำอาหารกินเอง ก็ยังคงความนิยมอยู่ไม่น้อย ด้วยกระแสรักสุขภาพ มีการควบคุมอาหารการกิน ควบคุมปริมาณแคลอรี่ กินเพื่อความสวยความงาม เพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม อีกทั้งสูตรอาหารและวิธีการปรุง ก็หาได้ไม่ยากในอินเตอร์เน็ตและมีสอนกันอย่างแพร่หลายใน YouTube สิ่งที่อาจจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง คือ การเสาะแสวงหาวัตถุดิบ

Blue Apron บริการส่งอาหารพร้อมทำยอดนิยม

Blue Apron บริการส่งอาหารพร้อมทำยอดนิยม

ท่ามกลางยุคสมัยที่มีแต่ความเร่งรีบและคนในสังคมเสาะแสวงหาความสะดวกสบาย อาหารแบบ delivery กลายมาเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่การทำอาหารกินเอง ก็ยังคงความนิยมอยู่ไม่น้อย ด้วยกระแสรักสุขภาพ มีการควบคุมอาหารการกิน ควบคุมปริมาณแคลอรี่ กินเพื่อความสวยความงาม เพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม อีกทั้งสูตรอาหารและวิธีการปรุง ก็หาได้ไม่ยากในอินเตอร์เน็ตและมีสอนกันอย่างแพร่หลายใน YouTube
สิ่งที่อาจจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง คือ การเสาะแสวงหาวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร ยิ่งเป็นเมนูที่ครีเอทีฟมากเท่าไหร่ ส่วนผสมที่ใช้ก็ยิ่งหายากเท่านั้น
แต่อุปสรรคเหล่านี้ได้หมดไป เมื่อมีบริการอย่าง “Blue Apron” ที่ได้รับความนิยมสุดๆในสหรัฐอเมริกา
“Blue Apron” เป็นธุรกิจที่ช่วยให้การทำอาหารกินเอง เป็นเรื่องที่น่าสนุก จากสารพัดเมนูที่ได้รับการเลือกสรรจากเชฟมือดี ส่งเป็นชุดอาหารพร้อมทำ (meal kit) เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกไปทำกินเองที่บ้าน
ในทุกๆสัปดาห์ “Blue Apron” จะนำเสนอเมนูอาหารในรูปแบบวัตถุดิบพร้อมปรุง (แบบที่เห็นในซุปเปอร์มาร์เก็ตบ้านเรา) โดยให้ลูกค้าเลือกประเภทของอาหารตามความชื่นชอบของตัวเอง (ระบุไว้ตอนสมัครบริการ)
วัตถุดิบและส่วนผสมของแต่ละเมนู ล้วนเป็นของสดใหม่ มีคุณภาพสูงเกรดเดียวกับที่ใช้ทำอาหารในภัตตาคารชั้นนำ ซึ่ง “Blue Apron” มีการสร้างแพลตฟอร์มที่ใช้ในการบริหารจัดการและหาวัตถุดิบชั้นเลิศจาก supplier หลากหลายที่ทั่วสหรัฐฯในราคาถูก
ค่าบริการ มีให้เลือก 2 แพคเกจ คือ
  1. แบบกินกันสองคน (2-Person Plan) กินกัน 3 มื้อต่อสัปดาห์ ตกอยู่ที่สัปดาห์ละ 59.94 ดอลลาร์ หรือหารเฉลี่ยต่อคนต่อมื้อเพียง 9.99 ดอลลาร์
  1. กินทั้งครอบครัว (Family Plan 4 คน) เลือกได้ว่าจะกิน 2 หรือ 4 มื้อต่อสัปดาห์ ถ้า 2 มื้อก็จ่ายทั้งหมด 70 ดอลลาร์ แต่ถ้าเป็น 4 มื้อต่อสัปดาห์ ก็จ่ายทั้งหมด 139.84 ดอลลาร์ (ตกคนละ 8.74 ดอลลาร์)
เมื่อเลือกเมนูและแพคเกจที่ต้องการได้แล้ว ลูกค้าจะต้องเลือกสถานที่ วันเวลาที่สะดวกในการรับสินค้า และสินค้าที่ส่งมาจะถูกจัดอยู่ในกล่องที่มีบรรจุภัณฑ์รักษาความเย็น เพื่อช่วยในการเก็บรักษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆในการส่ง
ด้วยเมนูแปลกใหม่ที่เชฟคิดค้นและเลือกมานำเสนอ พร้อมสูตรและวิธีการปรุงอย่างละเอียด ให้ลูกค้าศึกษาและทำตามได้ไม่ยากนัก
ลูกค้าของ “Blue Apron” จึงได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารที่ไม่เหมือนเดิม และยังได้กินอาหารเมนูใหม่ๆ รสชาติอร่อยๆ ในแบบที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะทำได้แบบนี้ (อารมณ์เหมือนสั่งจาก “Blue Apron” ทีไร ภูมิใจทุกที)
ปัจจุบัน “Blue Apron” เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มียอดการสั่งจากลูกค้าสูงถึง 3 ล้านมื้อต่อเดือน มากกว่ายอดสั่งในปี 2014 ถึง 3 เท่า
ล่าสุด “Blue Apron” สามารถระดมทุนสนับสนุนจาก Venture Capital ได้กว่า $135 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการในตอนนี้สูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจประเภทนี้ จะอยู่ที่ 3,000–5,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยมีผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง “HelloFresh” จากเยอรมนีที่ครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกอันดับ 1 จากการให้บริการใน 7 ประเทศ (สหรัฐ อังกฤษ เนเธอแลนด์ ออสเตรีย ออสเตรเลีย เยอรมนี และเบลเยี่ยม) และ “Plated” จากสหรัฐฯซึ่งเป็นบริการที่เริ่มต้นมาพร้อมๆกับ “Blue Apron” ในปี 2012 เป็นคู่แข่งหลักในธุรกิจ